เนโกรนี มีอายุย้อนไปถึงต้นศตวรรษที่ 20 เมื่อมันถูกปรุงโดยเคานต์ชาวอิตาลีในเมืองฟลอเรนซ์ ประวัติอันยาวนานนั้นทำให้บาร์เทนเดอร์มีเวลาเหลือเฟือในการทดลองสูตรคลาสสิกของเหล้าจิน เวอร์มุตหวาน และคัมพารี บางคนเลือกที่จะย่อยเหล้ายินสำหรับสุราชนิดอื่น ในขณะที่บางประเภทใช้ไวน์เสริมและส่วนประกอบที่มีรสขมต่างกัน เชฟและบาร์มืออาชีพ Kathy Casey ปรุงเครื่องดื่มในแบบฉบับของตัวเองด้วยการเติมเกรปฟรุตสีแดงทับทิมสด
เกรปฟรุตเนโกรนีของ Casey ติดกับจิน เวอร์มุตหวาน และคัมพารี แต่ปรับอัตราส่วน เรียกร้องให้มีจินมากขึ้นและคัมพารีน้อยลง การปรับนี้ทำให้เครื่องดื่มมีรสขมน้อยกว่าเดิม เธอเลือกที่จะบีบแล้วหยดเกรปฟรุตหั่นเป็นแว่นเพื่อให้เป็นรสเปรี้ยว คุณยังสามารถเทน้ำเกรพฟรุตสดลงไปได้ แต่การเติมน้ำเกรปฟรุตลงไปในค็อกเทลจะทำให้ค็อกเทลดูดีขึ้น เนื่องจากน้ำมันจากเปลือกจะโต้ตอบกับส่วนผสมอื่นๆ
เคซี่ย์เขย่าเครื่องดื่มนี้ไม่เหมือนกับ Negroni แบบคลาสสิกที่กวน นั่นเป็นเพราะมันประกอบด้วยส้ม และภูมิปัญญาดั้งเดิมบอกว่าคุณผสมค็อกเทลที่มีแอลกอฮอล์ทั้งหมดและเขย่าเครื่องดื่มที่มีรสเปรี้ยว ครีม ไข่ขาว และส่วนผสมอื่นๆ ที่ไม่ใช่สุรา
เกรปฟรุตเนโกรนีเป็นเพลงริฟฟ์ง่ายๆ จากต้นฉบับพร้อมรางวัลที่มากกว่าความพยายาม เกรปฟรุตอเนกประสงค์ช่วยเติมเต็มจินทางพฤกษศาสตร์ เวอร์มุตดอกไม้และสมุนไพร และ โน้ตสีส้มขมของคัมพารี ทิ้งท้ายด้วยค็อกเทลที่หอมสดชื่น
เปลือกส้มโอแดงทับทิม 2 ชิ้น (หรือ1 ออนซ์สดน้ำเกรพฟรุตสีแดงทับทิม)
1 1/2 ออนซ์ จิน
1 ออนซ์ เวอร์มุตหวาน
1/2 ออนซ์ คัมพารี
ประดับ: ยาว แนวกว้างของเปลือกส้มโอ
บีบส่วนเกรปฟรุตลงในเชคเกอร์แล้วหยดผลไม้ลงไป (หรือเติมน้ำผลไม้สด)
ใส่จิน เวอร์มุตหวาน และคัมพารีลงในเชคเกอร์ด้วยน้ำแข็ง แล้วเขย่าจนเย็นดี
วางน้ำแข็งก้อนใหญ่หนึ่งก้อนลงในแก้วหิน แล้วม้วนเปลือกส้มโอรอบด้านในแก้ว
เทลงในแก้วที่เตรียมไว้